พืชหลังนาสร้างรายได้ให้กับชาวนาในโครงการ

ทีมงานของพวกเราพยายามพิสูจน์ทฤษฎีต่าง ๆ
ในการสร้างเงิน สร้างงานให้กับพี่น้องชาวนา
ทั้งที่เข้าร่วมโครงการ กลุ่มชาวนา หรือ
แม้แต่ชาวนาเดี่ยว ๆ ที่เข้ามาขอคำแนะนำ
.
.
"พืชหลังนา" คือทางเลือกหลักในการสร้างเงิน
นอกจากการปลูกข้าวนาปี ที่เป็นข้อจำกัดของเรา
หลักการไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่า
ใน 1 ปี ชาวนาอิสานส่วนใหญ่ ทำนาเพียง 1 ครั้ง
ช่วงหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ดินยังมีความชื้นสูง
ทำให้เกิดไอเดียในการปลูกพืช เพื่อสร้างรายได้
.
.
แอดมินเริ่มทดลองกับแปลงนาของตนเองข้างบ้าน
ด้วยความที่เป็นคนชอบปลูกผัก ผลไม้ไว้กินเอง
ทำให้แสวงหาพืชเศรษฐกิจ สามารถสร้างร้ายได้(จริง ๆ)
ในช่วงแรกนั้น มี 2-3 อย่างที่พวกเราให้ความสนใจ
มีโจทย์คือ ปลูกง่าย อายุสั้น เป็นที่ต้องการของตลาด
.
.
ดอกขจร และมันเทศ คือ พืชชุดแรก
ที่เราทำการทดลอง เก็บข้อมูลจากการปลูก
ไปจนถึงสำรวจตลาด ขายขึ้นห้างได้
นำไปสู่การขยายพันธุ์ แบ่งปันให้ชาวนาหลายกลุ่ม
.
.
key to success ที่สามารถพัฒนา
จนนำขึ้นห้างได้ตอนนั้นคือ
-มันเทศ ต้องเลือกสายพันธุ์ญี่ปุ่น เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด
-ชนิด สี รสชาติ ความหวาน เนื้อ ต้องได้(วิธีการปลูก)
-การจัดสรรตารางการปลูก ให้มีผลผลิตออกได้ตลอดปี
-การตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ที่ลูกค้ายอมรับ
ฯลฯ
.
คีย์หลักเหล่านี้ ทำให้สามารถ
มีออเดอร์เข้ามาเดือนละ 10-15 ตัน
แต่ได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น เพราะปัจจัยปัญหา
ที่มาจากตัวเกษตรกรเองหลายอย่าง เช่น
-รักษามาตรฐานไม่ได้
-แอบนำผลผลิตจากแหล่งอื่นมาสวม
ฯลฯ
.
ทำให้โอกาสเหล่านั้น หลุดลอยไป
ตั้งแต่ปี 60 แล้วยังไม่หวนกลับคืนมาอีกเลย
(ปัจจุบัน เราปลูกและขายแบบออนไลน์เพียงอย่างเดียว)
.
.
ปี 2562 อีไรซ์ฯได้รับความร่วมมือ
จากหน่วยงานระดับมหาวิทยาลัยในท้องถิ่น
ชื่อ มทร.อิสาน วข.ร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้
(มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล)
ที่มีความร่วมมือกัน ผ่านทาง สวทช.(กระทรวงวิทย์ฯ)
ในการสนับสนุนเกษตรกรในเขตทุ่งกลาร้องไห้
ด้านการวิจัย พัฒนา ทดลอง จนสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ เช่น
วิทยากรให้ความรู้ ปุ๋ยและเมล็ดพันธุ์พืช
ทำให้เราสามารถเรียบเรียงจัดระเบียบความรู้ได้ระดับนึง
.
.
ปีนี้ 2563 อีไรซ์ฯ เปิดหุ้นให้พี่น้องชาวนาเข้ามามีส่วน
โดยมีทุนจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นบริษัทจำกัด
ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท(ยังมีไม่กี่หุ้น)
เพื่อขับเคลื่อนเกษตรกรในโครงการ แบบหวังผลจับต้องได้
ต่างจากที่ผ่านมา ที่ลดแลกแจกแถม กันเกินไป
.
.
วัตถุประสงค์ยังเหมือนเดิมคือ
ทำนาปลูกข้าว สร้างรายได้ให้เกษตรกร
ที่เข้าร่วมโครงการกับเราแบบเป็นรูปธรรม
.
พวกเราเลือกที่จะทำของเราเองก่อน
ในรูปแบบบริษัท แล้วจึงขยาย รวมกลุ่มเกษตรกร
เพื่อลดแรงเสียดทาน จากกระแสพลวัฒน์ในระบบทุนนิยม
(ลองสังเกตุวิสาหกิจชุมชน หรือ การรวมกลุ่มเกษตรกรเอง
โดยอาศัยหน่วยงานรัฐ จะเป็นไปได้ยาก ใช้เวลานาน
บางแห่งกว่าจะเกิดได้ ใช้เวลาเป็น 20 ปี
แล้วก็ใส่พานถวายให้นายทุน ซะงั้น)
.
.
เป้าหมายของพวกเราต่อไป
จะเป็นมากกว่าผู้ผลิตหรือปลูกอย่างเดียว
จะมีการแปรรูป เพิ่มเติมขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์
ที่ Ready to eat. หรือ เป็น Raw mat.
สำหรับบริษัทแปรรูปอื่น ๆ เช่น
.
มันเทศญี่ปุ่นที่เราสร้างรายได้ตลอดปี
จะถูกนำมาเข้าตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบสากล
เพื่อเป็น Reason to believe ให้กับลูกค้าทุกระดับ เป็นต้น
.
.
เส้นทางสายนี้ เหมือนจะเดินมาเกิน 6 ปีแล้วก็ใช่
แต่ในความรู้สึกของชาวนาตัวเล็ก ๆ แบบพวกเรา
เหมือนเพิ่งเริ่มต้นมาไม่กี่วันนี่เอง